สงครามนี้เกิดขึ้นอย่างไร สงครามนี้เริ่มขึ้นจากการกล่าวอ้างของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จีนทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีการตรวจพบการละเมิดลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง โดยทางอเมริกาต้องการให้จีนควบคุมการละเมิดทางความคิด และการออกแบบที่คล้ายคลึงกับสินค้าของผู้คิดค้น แต่ทางรัฐบาลจีนก็ไม่ได้เข้าจัดการอย่างเด็ดขาด มีการวางขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในประเทศจีนอย่างโจ่งแจ้ง ทางอเมริกาจึงประกาศขึ้นภาษีศุลกากรขึ้นเป็น 25% เพื่อกดดันให้จีนดำเนินการควบคุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้เข้มข้นขึ้น จีนตอบโต้โดยการขึ้นภาษีเช่นกัน หลักจากที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรและบังคับใช้ไปเรียบร้อยแล้ว จีนได้ตอบโต้โดยการขึ้นภาษีศุลกากรจากอเมริกา 25% เช่นเดียวกัน รวม 128 รายการ เพื่อเป็นการกดดันสหรัฐให้ตระหนักถึงผลกระทบของระบบเศรษฐกิจ และเป็นการทำให้ลดผลกระทบต่อการเสียภาษีให้สหรัฐอเมริกา ซึ่งนั่นเป็นการตอบโต้ทางการค้าที่เข้มข้นและทำให้การส่งออกมีปัญหา ผลกระทบจากสงครามการค้า เมื่อมีการขึ้นภาษีศุลกากร ทำให้สินค้าที่นำเข้าจากจีน และสหรัฐ ของทั้งสองประเทศนั้นมีราคาสูงขึ้น…

วันนี้ภายในประเทศจะเห็นได้ว่าธุรกิจการส่งออกนั้นสามารถทำกำไรได้สูงมาก เพราะสินค้าภายในประเทศของเราเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ มันสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดีแต่เราจะต้องเลือกสินค้าที่สามารถจะส่งออก และสามารถสร้างกำไรให้เราเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ตั้งนั้นเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่ามันมีธุรกิจอะไรบ้างที่น่าสนใจ ผลไม้ตามฤดูกาล ผลไม้ภายในประเทศไทยนั้นยังเป็นที่ต้องการของต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะต่างชาติมีอากาศที่หนาวอากาศเย็นจึงทำให้ผลไม้ตามฤดูกาลของประเทศเรา ซึ่งอยู่ในเขตร้อนนั้นได้รับความต้องการสูงมากจะสังเกตได้ว่าตามห้างสรรพสินค้าต่างประเทศ ได้มีการนำผลไม้ตามฤดูกาลของประเทศเราไปวางขายซึ่งมีราคาที่แพงมาก ดังนั้นมันก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ผ้าไหม เป็นสินค้าที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ ที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับความนิยมมากคือผ้าไหมของประเทศไทย มันเป็นงานหัตถกรรมที่ส่งออกและสามารถทำเงินได้เป็นอย่างดี เพราะประเทศเรามีศักยภาพในการผลิตผ้าไหมที่มีคุณภาพ และมีเอกลักษณ์ ดังนั้นเราจึงสามารถที่จะส่งออกมันได้ และตลาดแฟชั่นต่างประเทศก็มีความต้องการ ข้าวหอมมะลิ ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่ทำเกษตรกรรมมากที่สุด rb888.vip และข้าวหอมมะลิของประเทศไทยก็ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากจะต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นประเทศหรือชาติไหนก็ทานข้าวกันทั้งนั้น ดังนั้นประเทศของเรามีพื้นที่ทำเกษตรกรที่ทำนา และสามารถผลิตข้าวออกมาขายให้กับต่างชาติได้ ดังนั้นจะได้เป็นการยกระดับธุรกิจประเภทข้าวหอมมะลิภายในประเทศของเราด้วย ไม่ว่าการทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ทุกอย่างมันมาพร้อมความเสี่ยงเสมอ แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยงคุณก็จะไม่ได้เริ่มและคุณก็จะไม่สามารถที่จะพัฒนา หรือสร้างเงินทุนได้มากกว่าเดิมมันมีการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว…